อาร์มินิอุส | |
---|---|
รูปปั้นอาร์มินิอุส ณ อนุสรณ์สถานแฮร์มันเด็นคมอล์ | |
เจ้าชายและหัวหน้าเผ่าเครุสกี | |
ก่อนหน้า | เซจิแมร์ |
ถัดไป | อิตาลีคัส |
ประสูติ | 18/17 ปีก่อนคริสต์กาล เจอร์มาเนีย |
สวรรคต | ค.ศ. 21 (อายุ 37–38 ปี) เจอร์มาเนีย |
คู่อภิเษก | ทุสเนลดา |
พระราชบุตร | ทูมลีกุส |
Armin, Hermann | |
พระราชบิดา | เซจิแมร์ |
ศาสนา | เจอร์มานิก |
อาร์มินิอุส (Arminius; 18/17 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 21) หรือที่ชาวเยอรมันเรียกว่า แฮร์มัน (Hermann) เป็นหัวหน้าเผ่าเครุสกีซึ่งเป็นเผ่าหนึ่งของชนชาติเยอรมันโบราณ เขาเป็นผู้นำกองกำลังพันธมิตรชนเผ่าเยอรมันทั้งหลายในยุทธการที่ป่าท็อยโทบวร์คเมื่อปีที่ 9 ก่อนคริสตกาล และมีชัยชนะเหนือกองทหารโรมันทั้งสามได้ ชัยชนะของเขาที่ป่าท็อยโทบวร์คทำให้จักรวรรดิโรมันกำหนดนโยบายถอนกำลังออกจากแผ่นดินเยอรมันอย่างถาวร และเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เร่งรัดการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกในเวลาต่อมา นักประวัติศาสตร์ยุคใหม่หลายคนถือว่าชัยชนะของอาร์มินิอุสเป็นความปราชัยครั้งใหญ่ที่สุดของกรุงโรม อาร์มินิอุสได้ป้องกันชนเผ่าเยอรมันจากการถูกครอบงำโดยวัฒนธรรมโรมันไว้ ชัยชนะของอาร์มินิอุสได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในชัยชนะอย่างขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์โลก
อาร์มินิอุสเกิดในตระกูลผู้นำเผ่าเครุสกีในปี 18 หรือ 17 ก่อนคริสต์กาล และถูกนำตัวไปเป็นองค์ประกันของโรมันตั้งแต่ยังเล็ก เขาเติบโตในกรุงโรมและถูกเกณฑ์เข้าเป็นทหารโรมันตั้งแต่วัยหนุ่ม นั่นทำให้เขาได้รับสัญชาติโรมันและกลายเป็นอัศวินโรมัน ภายหลังมีส่วนปราบกบฏในมณฑลอิลลีรีลงได้ เขาก็ถูกส่งตัวไปยังแผ่นดินเยอรมัน (Germania) เพื่อช่วยเหลือผู้ว่าการโรมัน ปูบลิอุส วารุส (Publius Varus) ในการสยบพวกเยอรมันเผ่าต่าง ๆ ในช่วงนี้เอง อาร์มินิอุสได้สมคบกับชนเผ่าเยอรมันเพื่อเตรียมการกบฎต่อพวกโรมัน จนนำไปสู่ซุ่มโจมตีสามกองทหารโรมันที่ป่าท็อยโทบวร์คจนพินาศย่อยยับ
ภายหลังมีชัยในศึกท็อยโทบวร์ค อาร์มินิอุสก็นำทัพชนเผ่าเยอรมันเข้าต่อสู้กับทัพของแกร์มานิกุส (Germanicus) แม่ทัพชาวโรมัน อีกหลายครั้งหลายครา นอกจากนี้ยังสามารถกำจัดคู่แข่ง มารอบอดุอุส (Maroboduus) แห่งเผ่ามาร์โคมัน (Marcomanni) ซึ่งหวั่นวิตกถึงอำนาจที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ของอาร์มินิอุสจนพยายามลอบสังหารเขาใน ค.ศ. 21 แต่ล้มเหลว นักประวัติศาสตร์ตากิตุสยกย่องอาร์มินิอุสว่าเป็นผู้ปลดแอกชนแห่งเผ่าเยอรมันที่กล้าต่อสู้จักรวรรดิโรมันในช่วงที่กรุงโรมเรืองอำนาจขีดสุด
ในช่วงการรวมชาติเยอรมันในคริสต์ศตวรรษที่ 19 อาร์มินิอุสถูกยกยอโดยเหล่านักชาติเยอรมันนิยมในฐานะสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งเดียวและอิสรภาพ อย่างไรก็ตาม ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ชื่อของอาร์มินิอุสกลับเลือนหายไปจากหนังสือเรียนเนื่องจากเขามีภาพลักษณ์ชาติทหารนิยม ทำให้คนเยอรมันรุ่นใหม่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องราวของเขามากนัก แม้แต่งานฉลองครบสองพันปีศึกท็อยโทบวร์คก็ยังเป็นเพียงงานรำลึกเล็ก ๆ เท่านั้น
Mommsen referred to the Battle of the Teutoburg forest as a turning-point in world history.