ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เจ้าหญิงมาร์กาเรต | |||||
---|---|---|---|---|---|
เคานท์เตสแห่งสโนว์ดอน | |||||
เจ้าหญิงมาร์กาเรต ใน ค.ศ. 2002 | |||||
ประสูติ | 21 สิงหาคม ค.ศ. 1930 ปราสาทกรามิส สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร | ||||
สิ้นพระชนม์ | 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ลอนดอน อังกฤษ สหราชอาณาจักร | (71 ปี)||||
ฝังพระศพ | 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 Ashes placed in the Royal Vault, โบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์ 9 เมษายน ค.ศ. 2002 Ashes interred in the King George VI Memorial Chapel, โบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์ | ||||
พระสวามี | อันโทนี อาร์มสตรอง-โจนส์, เอิร์ลที่ 1 แห่งสโนว์ดอน (1960–1978) | ||||
| |||||
พระบุตร | เดวิด อาร์มสตรอง-โจนส์ ที่ 2 เอิร์ลแห่งสโนว์ดอน เลดีซาราห์ แชตโท | ||||
ราชวงศ์ | วินด์เซอร์ | ||||
พระบิดา | สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักร | ||||
พระมารดา | สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี |
เจ้าหญิงมาร์กาเรต เคานท์เตสแห่งสโนว์ดอน (มาร์กาเรต โรส; 21 สิงหาคม ค.ศ. 1930 – 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002) พระราชธิดาพระองค์เล็กในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 กับสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ และพระขนิษฐาในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 พระประมุขแห่งอังกฤษ (1952–2022) พระองค์ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นเคานท์เตสแห่งสโนว์ดอนจากการอภิเษกสมรส
เจ้าหญิงมาร์กาเรตประสูติวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1930 ณ ปราสาทกลามีส (Glamis Castle) ประเทศสกอตแลนด์ พระองค์ทรงเป็นรัชทายาทแห่งราชบัลลังก์อังกฤษพระองค์แรกที่ประสูติที่สกอตแลนด์ นับแต่ 300 ปีที่แล้ว พระบิดาและพระมารดาของพระองค์คือ ดยุกและดัชเชสแห่งยอร์ก (Their Royal Highnesses The Duke and Duchess of York) ในฐานะพระราชนัดดาของพระมหากษัตริย์ผ่านทางสายพระราชโอรส ทรงดำรงพระอิสริยยศเจ้าหญิงมาร์กาเรตแห่งยอร์ก มาตั้งแต่แรกเริ่มประสูติ พระองค์ทรงรับศีลล้างบาปที่พระราชวังบักกิงแฮม พ่อและแม่ทูนหัวของพระองค์คือ สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 อิงกริดแห่งสวีเดน สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก เจ้าหญิงวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร โรส เลเวนสัน-โกเวอร์ เคาน์เตสแกรนด์วิลล์ และฮอนเนอเรเบิ้ลเดวิด โบวส์-ลีออน (พระราชอนุชาในสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี)
เจ้าหญิงมาร์กาเรตมีพี่พระเชษฐภคินี 1 พระองค์คือ
1.สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร
เจ้าหญิงมาร์กาเรตได้รับการศึกษาพร้อม ๆ กับพระเชษฐภคินี โดยมารีออน ครอว์ฟอร์ด (Marion Crawford) ใน ค.ศ. 1936 สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 พระปิตุลา (ลุง) ของพระองค์สละราชสมบัติ พระราชบิดาเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 เจ้าหญิงมาร์กาเรตได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเลื่อนเป็นเจ้าฟ้า พระองค์ได้โดยเสด็จไปในพระราชพิธีราชาภิเษกของพระบิดาและพระมารดาในปี 1937
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 มาร์กาเรตประทับอยู่ที่พระราชวังวินด์เซอร์ นอกกรุงลอนดอน ต่อมาใน ค.ศ. 1952 พระบิดาของพระองค์เสด็จสวรรคต พระเชษฐภคินีของพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
สองปีหลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระพี่นาง เจ้าหญิงมาร์กาเรตทรงกลายเป็นเป้าหมายของสื่อมวลชนและถูกจับจ้องทุกพระอิริยาบถ เหตุผลก็เพราะเจ้าหญิงทรงมีพระประสงค์ที่จะทรงเสกสมรสกับปีเตอร์ ทาวน์เซนด์ ผู้บัญชาการทหารอากาศและราชองครักษ์ประจำพระองค์สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชบิดา ปีเตอร์อายุมากกว่าเจ้าหญิงมาร์กาเรตถึง 16 ปี และเคยสมรสพร้อมกับหย่ามาแล้ว จึงเป็นผู้ที่ไม่สมควรจะเสกสมรสกับเจ้าหญิงแห่งสหราชอาณาจักร ในความเห็นของรัฐบาลและนิกายโบสถ์แห่งอังกฤษ
ถึงแม้ว่าเจ้าหญิงมาร์กาเรตจะไม่จำเป็นต้องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระเชษฐภคินี หรือความเห็นชอบจากสภา เพราะขณะนั้นพระองค์ทรงบรรลุนิติภาวะแล้วและมีพระชนม์ 25 ปี จึงทรงมีอิสระที่จะทำทุกอย่างได้ตามพระทัย หากแต่การกระทำเช่นนั้นจะทำให้พระองค์ถูกตัดออกจากผู้มีสิทธิ์รับเงินปีในฐานะพระราชวงศ์ พระองค์จะต้องสูญเสียพระอิสริยยศเจ้าหญิงแห่งบริเตนใหญ่ สหราชอาณาจักรและทั้งหมด ทั้งนี้จะถูกตัดพระราชสิทธิ์ในการเสด็จขึ้นครองราชย์บัลลังก์อีกด้วย ท้ายที่สุดอาจถึงขั้นต้องเสด็จออกไปประทับที่ต่างประเทศ ด้วยพระสามัญสำนึกในฐานะเจ้าหญิงสมเด็จพระราชธิดา และคำแนะนำจากอาร์คบิชอป แห่งแคนเธอเบรี และนักการเมืองอาวุโสอีกหลายท่าน ในที่สุดเจ้าหญิงมาร์กาเรตทรงตัดสินพระทัยที่จะไม่เสกสมรสกับปีเตอร์ ทาวน์เซนด์ โดยมีพระดำรัสต่อหน้าสาธารณชนจำนวนมาก
"ข้าพเจ้าขอประกาศให้ท่านทั้งหลายทราบโดยทั่วกันว่า..ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจที่จะไม่แต่งงานกับกัปตัน ปีเตอร์ ทาวน์เซนด์ เพราะเพื่อความถูกต้องแห่งกฎของพระศาสนา และด้วยภาระหน้าที่ที่ข้าพเจ้ามีต่อสหราชอาณาจักรที่ต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด"
ตามความเป็นจริงแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2547 ยืนยันว่าหากสมมติมาร์กาเรตทรงเสกสมรสกับปีเตอร์จริง พระองค์จะไม่ทรงถูกตัดออกจากเงินปี และจะไม่สูญเสียพระอิสริยยศใดๆ ด้วย สิ่งที่พอจะเป็นไปได้นั้นก็คือพระองค์จะเสียพระราชสิทธิ์ในการเสด็จขึ้นครองราชย์บัลลังก์ (ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะเจ้าฟ้าชายชาลส์เองก็ไม่สูญเสียพระราชสิทธิ์นี้ไป) เหตุการณ์นี้อาจเป็นไปได้เพราะว่านักการเมืองและประชาชนกำลังรู้สึกเกลียดและกลัวจากการทรงเสกสมรสของ สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 กับนางวอลลิส ซิมป์สัน ซึ่งมีท่าทีว่าจะย้อนรอยมาเมื่อเจ้าหญิงมาร์กาเรตทรงพระประสงค์ที่เสกสมรสกับคนที่หย่าแล้วนั่นเอง
ภายหลังความรักอันไม่สมหวังกับปีเตอร์ ทาวน์เซนด์ เจ้าหญิงมาร์กาเรตทรงอภิเษกสมรสกับช่างถ่ายภาพนามว่า แอนโทนี่ ชาลส์ โรเบิร์ต อาร์มสตรอง-โจนส์ (Antony Charles Robert Amstrong-Jones, 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1930) ณ มหาวิหารเวสมินสเตอร์ กรุงลอนดอน โดยแอนโทนี่ได้รับการสถาปนาเป็นเอิร์ลแห่งสโนว์ดอน (Earl of Snowdon) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1961 ดังนั้นมาร์กาเรตจึงทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นเคาน์เตสแห่งสโนว์ดอน แต่ได้ทรงหย่าร้างเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 1978 พระองค์มีพระโอรสและธิดา ดังนี้
เจ้าหญิงมาร์กาเรตสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 สิริพระชันษา 71 ปี หลังจากทรงทุกข์ทรมานจากโรคร้าย งานพระศพจัดขึ้น 50 ปีหลังจากงานพระบรมศพของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักร และในงานพระราชพิธีกาญจนาภิเษก (ครองราชย์ครบ 50 ปี) ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 งานพระศพจัดขึ้นโดยพระราชวงศ์ของพระองค์ ส่วนพระราชพิธีพระศพเริ่ม 1 สัปดาห์หลังจากนั้น พระราชพิธีนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่พสกนิกรได้เห็นสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี
พระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร พระภาคิไนย (หลานชาย) ขณะดำรงพระยศ เจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ ได้ทรงกล่าวไว้อาลัยถวายแก่เจ้าหญิงมาร์กาเรต ความตอนหนึ่งว่า