ความเสียหายโดยรอบวัดเซ็นโซจิในอาซากูซะ | |
เวลาสากลเชิงพิกัด | 1923-09-01 02:58:35 |
---|---|
รหัสเหตุการณ์ ISC | 911526 |
USGS-ANSS | ComCat |
วันที่ท้องถิ่น | 1 กันยายน ค.ศ. 1923 (พ.ศ. 2466) |
เวลาท้องถิ่น | 11:58:32 JST (UTC+09:00) |
ระยะเวลา | 48 วินาที 4 นาที |
ขนาด | 7.9 8.0 8.2 Mw |
ความลึก | 23 km (14 mi) |
ศูนย์กลาง | 35°19.6′N 139°8.3′E / 35.3267°N 139.1383°E |
ประเภท | เมกะทรัสต์ |
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ | ประเทศญี่ปุ่น |
ระดับความรุนแรงที่รู้สึกได้ | ชินโดะ 7 XI (สุดขีด) |
สึนามิ | สูงถึง 12 m (39 ft) ที่อาตามิ, จังหวัดชิซูโอกะ, โทไก |
แผ่นดินถล่ม | ใช่ |
แผ่นดินไหวตาม | 6 ถึง 7.0 M หรือสูงกว่านี้ |
ผู้ประสบภัย | ตาย 105,385 คน–142,800 |
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต ค.ศ. 1923 (พ.ศ. 2466) เป็นเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในรัชสมัยไทโชของญี่ปุ่น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1923 ซึ่งตรงกับพุทธศักราช 2466 เวลา 11:58:44 น. ตามเวลาในท้องถิ่น บริเวณภาคคันโต บนเกาะฮนชู มีจุดศูนย์กลางอยู่ใต้ทะเล บริเวณเกาะอิซูโอชิมะ ในอ่าวซางามิ
แผ่นดินไหวก่อให้เกิดความเสียหายแก่กรุงโตเกียว เมืองท่าโยโกฮามะ จังหวัดชิบะ จังหวัดคานางาวะ และจังหวัดชิซูโอกะ ประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 100,000 คน มีผู้สูญหายที่คาดว่าเสียชีวิตแล้วประมาณ 40,000 คน เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นในช่วงเที่ยงวัน ขณะประชาชนกำลังใช้เตาไฟหุงอาหาร ทำให้เกิดเพลิงไหม้ และเนื่องจากมีพายุไต้ฝุ่นอยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ทำให้มีกระแสลมแรงจึงเกิดเพลิงลุกลาม ประกอบกับระบบท่อส่งน้ำเกิดชำรุดอันเป็นผลมาจากแผ่นดินไหว ส่งผลให้การดับเพลิงต้องใช้เวลาถึง 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 จนถึงวันที่ 3 กันยายน นอกจากนี้ยังเกิดดินถล่มในหลายพื้นที่
บันทึกของกัปตันเรือ SS Dongola ขณะที่เรือของเขาทอดสมอในโยโกฮามะ ระบุว่า:
"เมื่อเวลา 11:55 น. เรือเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเมื่อมองไปทางชายฝั่งได้มีแผ่นดินไหวรุนแรงเกิดขึ้นอาคารหลายแห่งกำลังยุบตัวทุกทิศทางและไม่กี่นาทีต่อมาฝุ่นผงจากอาคารได้กระจายไปทั่วทำให้ไม่สามารถมองเห็นตัวเมืองได้ เขามองเห็นไฟที่กำลังลุกไหม้ทั่วทิศทางและเวลาครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งเมืองก็อยู่ใต้เปลวเพลิง"
แผ่นดินไหวครั้งนี้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากในโตเกียวและโยโกฮามะรวมถึงจังหวัดโดยรอบได้แก่ จังหวัดชิบะ จังหวัดคานางาวะ และจังหวัดชิซูโอกะ และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวางทั่วภูมิภาคคันโต แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้แรงมากจนสามารถเคลื่อนพระพุทธรูปโคโตกูอิงที่มีน้ำหนักถึง 121 ตัน ที่อยู่ห่างจากศูนย์กลาง 60 กม. ได้ถึง 60 เซนติเมตร
มีผู้เสียชีวิตประมาณ 142,800 ราย สูญหายประมาณ 40,000 คน ผู้สูญหายส่วนใหญ่ถูกสันนิษฐานว่าเสียชีวิต ตามรายงานสรุปของคาจิมะ คอร์ปอเรชั่นในเดือนกันยายน ค.ศ. 2004 มีผู้เสียชีวิต 105,385 รายในแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังทำอาหาร ผู้เสียชีวิตหลายคนเสียชีวิตเนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นหลังแผ่นดินไหว ไฟได้เริ่มไหม้ทันทีหลังจากที่เกิดแผ่นดินไหว ไม่นานไฟไหม้ได้เพิ่มกำลังขึ้นเป็นพายุไฟทำให้ไฟลุกลามไปทั่วเมือง
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate=
(help)CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
35°06′N 139°30′E / 35.1°N 139.5°E{{#coordinates:}}: ไม่สามารถมีป้ายกำกับหลักมากกว่าหนึ่งป้ายต่อหน้าได้