บทบาท | เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ |
---|---|
ชาติกำเนิด | สหภาพโซเวียต |
บริษัทผู้ผลิต | ตูโปเลฟ |
บินครั้งแรก | 19 ธันวาคม พ.ศ. 2524 |
เริ่มใช้ | พ.ศ. 2530 (เริ่มใช้อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2548) |
สถานะ | ประจำการ |
จำนวนที่ผลิต | 35 ลำ |
ตูโปเลฟ ตู-160 (อังกฤษ: Tupolev Tu-160, Blackjack, รัสเซีย: Туполев Ту-160, เนโทใช้ชื่อรหัสว่าแบล็คแจ็ค) เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดหนักที่มีความเร็วเหนือเสียงและปีกที่สามารถพับได้ซึ่งออกแบบโดยสหภาพโซเวียต มันมีความคล้ายคลึงกับบี-1 แลนเซอร์แต่มีขนาดใหญ่กว่าและเร็วกว่าบี-1บี พร้อมกับความจุและพิสัยที่มากกว่ามาก
มันได้เข้าประจำการในปี พ.ศ. 2530 ในกองบินทิ้งระเบิดที่ 184 ของสหภาพโซเวียต ตู-160 เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์แบบสุดท้ายที่ออกแบบโดยโซเวียตแต่ยังคงอยู่ในการผลิต โดยมีอย่างน้อย 16 ลำที่ประจำการในกองทัพอากาศรัสเซีย
นักบินของตู-160 เรียกมันว่า"หงส์ขาว" (White Swan) เพราะว่าความคล่องตัวและสีขาวของมัน
ถึงแม้ว่าเครื่องบินขนส่งทางทหารและพลเรือนจำนวนมากจะมีขนาดใหญ่กว่า ตู-160 ก็มีแรงขับที่มากที่สุดและมีน้ำหนักตอนนำเครื่องขึ้นมากที่สุดในบรรดาเครื่องบินรบ มันยังมีความเร็วสูงสุดเช่นเดียวกับความจุมากที่สุดในบรรดาเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดหนัก
การแข่งขันครั้งแรกของเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ขนาดหนักที่มีความเร็วเหนือเสียงเกิดขึ้นในสหภาพโซเวียตเมื่อปี พ.ศ. 2510 เครื่องบินลำใหม่มีความเร็วมากกว่ามัค 3 เทียบกับบี-70 วัลคีรีของอเมริกา ไม่นานมันก็เห็นได้ชัดว่าเครื่องบินแบบนั้นอาจมีราคาแพงเกินไปและยากเกินไปที่จะทำการผลิต ดังนั้นมันจึงถูกลดจำนวนการผลิตลง (บี-70 ของสหรัฐฯ ถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว)
ในปีพ.ศ. 2515 สหภาพโซเวียตได้เปิดการแข่งขันของเครื่องบินทิ้งระเบิดหลากภารกิจครั้งใหม่เพื่อสร้างเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดหนักที่มีความเร็วเหนือเสียงและสามารถพับปีกได้ พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 2.3 มัค เทียบกับบี-1 แลนเซอร์ของกองทัพอากาศสหรัฐ ตูโปเลฟได้ทำแบบที่เรียกว่า 160เอ็มที่มีส่วนประกอบจากตูโปเลฟ ตู-144 แบบของมิยาซิสเชฟคู่แข่งถูกมองว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดแม้ว่าของติวโปเลฟจะเป็นสิ่งที่ตรงตามโครงการมากกว่า ดังนั้นตูโปเลฟได้รับสิทธิในการพัฒนาเครื่องบินของมิยาซิสเชฟต่อในปี พ.ศ. 2516
ถึงแม้ว่าบี-1เอ จะถูกยกเลิกในปี พ.ศ. 2520 งานของโซเวียตก็ยังคงดำเนินต่อไปและในปีเดียวกันนั้นทางรัฐบาลก็ได้รับแบบ ต้นแบบถูกถ่ายภาพโดยผู้โดยสารสายการบินที่สนามบินซูคอฟสกี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนพ.ศ. 2524 ประมาณหนึ่งเดือนก่อนมันจะทำการบินครั้งแรกในวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2524 การผลิตเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2527 โดยเริ่มขึ้นที่คาซัน มันมีชื่อว่าตู-160 โดยเดิมทีถูกคาดว่าจะผลิตออกมา 100 ลำแม้ว่าจะมีเพียง 35 ลำเท่านั้นที่ผลิตออกมาซึ่งรวมทั้งต้นแบบทั้งสามลำ ต้นแบบที่สองสูญหายในการทดสอบเมื่อปี พ.ศ. 2520 ลูกเรือนั้นดีดตัวออกได้อย่างปลอดภัย
ตู-160 เป็นเครื่องบินที่ปีกสามารถพับได้ตั้งแต่ 20° ถึง 65° มันใช้ปีกแบบพับและแผ่ที่มีแฟลบอยู่ที่ขอบ ตู-160 ใช้ระบบควบคุมแบบฟลาย-บาย-ไวร์ (fly-by-wire)
มันมีเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนคุซเนทซอฟ เอ็นเค-321 พร้อมสันดาปท้ายสี่เครื่องยนต์ มันเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยใช้กับเครื่องบินรบ มันไม่เหมือนกับบี-1บี ซึ่งไม่สามารถทำความเร็วกว่ากว่า 2 มัคเหมือนกับบี-1เอ ตู-160 นั้นมีส่วนหน้าของเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนรูปได้และสามารถทำความเร็วได้มากกว่า 2 มัค
ตู-160 ระบบเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศสำหรับภารกิจระยะไกลถึงแม้ว่าน้อยครั้งนักที่ต้องใช้ ความจุเชื้อเพลิงอย่างมหาศาลของตู-160 คือ 130 ตันทำให้ทำการบินได้นาน 15 ชั่วโมงด้วยความเร็ว 850 กิโลเมตร/ชั่วโมงที่ความสูง 30,003 ฟุต
ตู-160 มีความคล้ายคลึงกับบี1เอ แลนเซอร์ของนอร์ท อเมริกัน ร็อคเวลล์ ถึงแม้ว่าตู-160 นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าและเร็วกว่ามากก็ตาม
แม้ว่าตู-160 นั้นจะถูกออกแบบมาเพื่อลดการถูกตรวจจับโดยเรดาร์และอินฟราเรด มันก็ยังไม่ใช่อากาศยานล่องหน ถึงกระนั้นในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2549 ผู้บัญชาการอิกอร์ โควรอฟได้อ้างว่าตู-160 ได้ทำการรุกล้ำเขตอาร์กติกของสหรัฐ โดยที่ไม่ถูกตรวจจับ ทำให้เนโททำการสืบสวนในเรื่องดังกล่าว
ตู-160 มีเรดาร์แบบออบซอร์-เคในส่วนคล้ายโดมและเรดาร์พื้นผิวซึ่งทำให้บินได้อย่างปลอดภัยในระดับต่ำ ตู-160 มีกล้องมองแบบกลางคืนเพื่อทิ้งระเบิดในตอนกลางคืน ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ของมันก็มีระบบต่อต้านการคุกคามด้วยอิเล็กทรอนิกส์เช่นกัน
ตู-160 มีลูกเรือทั้งสิ้นสี่นาย (นักบิน นักบินผู้ช่วย ผู้ควบคุมอาวุธ และผู้ควบคุมระบบป้องกัน) พร้อมเก้าอี้ดีดตัวแบบเค-36ดีเอ็ม นักบินมีคันบังคับแบบเครื่องบินขับไล่แต่มีส่วนเข็มวัดที่เป็นแบบไอน้ำ ส่วนที่พักของลูกเรือ ห้องน้ำ และห้องครัวมีไว้สำหรับการบินในระยะยาว มันไม่มีจอแสดงผลและจอซีทีอาร์เหมือนกับเครื่องบินทั่วไป อย่างไรก็ตามมีการวางแผนที่จะให้ตู-160 ทันสมัยยิ่งขึ้นในปี พ.ศ. 2546 พวกมันยังรวมทั้งระบบควบคุมการบินแบบดิจิทัลและความสามารถในการบรรทุกอาวุธแบบใหม่ อย่าง ขีปนาวุธพิสัยไกล
อาวุธจะถูกบรรทุกเอาไว้ในห้องสองห้องภายในตัวเครื่องบิน แต่ละห้องจะสามารถจุได้ 20,000 กิโลกรัมสำหรับอาวุธแบบปล่อยและขีปนาวุธนิวเคลียร์ นอกจากห้องเก็บขีปนาวุธแล้วก็ยังมีการบรรทุกที่ส่วนนอกอีกด้วย ความจุอาวุธของเครื่องบินอยู่ที่ 45,000 กิโลกรัมนั้นทำให้มันเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดหนักที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นมา อย่างไรก็ดีมันไม่มีอาวุธสำหรับป้องกันตนเอง ตู-160 เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบแรกของโซเวียตที่ไร้อาวุธหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง
มีรุ่นสำหรับการแสดงโดยมีชื่อว่าตู-160เอสเค ซึ่งถูกแสดงที่เอเซียน แอร์โรสเปซในสิงคโปร์เมื่อปี พ.ศ. 2537 พร้อมแบบจำลองของยานพาหนะอวกาศที่ส่วนใต้ของเครื่องบินในปี พ.ศ. 2538 ตูโปเลฟได้ประกาศหุ้นส่วนกับเยอรมนีเพื่อทำการผลิตเครื่องบินสำหรับบรรทุกยานพาหนะ รัฐบาลเยอรมันถอนตัวในปี พ.ศ. 2541
ตู-160 ปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2532 ในปี พ.ศ. 2532 และ 2533 มันได้ทำการบินบันทึกสถิติเอาไว้ การเข้าประจำการเกิดขึ้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2530 จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2534 เครื่องบิน 19 ลำก็เข้าทำหน้าที่ในกองบินทิ้งระเบิดที่ 184 ของสหภาพโซเวียตในยูเครนเพื่อเข้าแทนที่ตูโปเลฟ ตู-16 และตูโปเลฟ ตู-22เอ็ม ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 บอริส เยทซินได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกการผลิตตู-160 ในเวลานี้เองเครื่องบินจำนวน 35 ลำก็ถูกสร้างขึ้นมา ในปีเดียวกันนั้นรัสเซียได้ใช้มันทำการบินเดียวนอกดินแดนของตนเอง หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเครื่องบิน 19 ลำจาก 35 ลำกลายมาเป็นทรัพย์สินของยูเครนถึงแม้ว่าในปี พ.ศ. 2542 จะมีการตกลงระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้แปดเครื่องในนั้นตกเป็นของรัสเซียเพื่อแลกเปลี่ยนกับลดหนี้ด้านพลังงานของยูเครน ยูเครนซึ่งได้ยอมแพ้ต่ออาวุธนิวเคลียร์หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ได้ทำลายตู-160 ที่เหลือยกเว้นเอาไว้หนึ่งลำ
หน่วยตู-160 ที่สองของรัสเซียคือกองบินทิ้งระเบิดที่ 121 ถูกจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2535 แต่ในปี พ.ศ. 2537 มันก็ได้รับเครื่องบินเพียงหกลำเท่านั้น ระหว่างปี พ.ศ. 2542 และ 2543 เครื่องบินของยูเครนแปดลำถูกมอบหมายให้กับกองบินนี้ และมีการสร้างเพิ่มในปี พ.ศ. 2543 ในต้นปี พ.ศ. 2544 ในสนธิสัญญาสตาร์ท-2 รัสเซียได้สร้างตู-160 เพิ่มอีก 15 ลำ ซึ่งหกลำเคยเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดติดขีปนาวุธ เครื่องบินลำหนึ่งสูญหายในการทดสอบการบินหลังจากทำการซ่อมแซมเครื่องยนต์เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2546
มีตู-160 จำนวน 14 ลำในประจำการเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2548 อีกสองลำกำลังสร้างเสร็จที่ฐานบินคาซัน หนึ่งในนั้นเข้าประจำการในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 พร้อมกับลำอื่น ๆ ในปีเดียวกัน เมื่อถึงปี พ.ศ. 2544 มีตู-160 หกลำทำหน้าที่เป็นเครื่องบินทดสอบที่ซูคอฟสกี สี่ในหกยังคงทำการบินได้
ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ภายใต้คำสั่งของประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิเมียร์ ปูติน ตู-160 ก็ได้เข้าประจำการในกองทัพอากาศรัสเซียอย่างเป็นทางการ
ในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2550 ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินได้ประกาศว่ารัสเซียทำยกเลิกการหยุดบินทางยุทธศาสตร์ในปี พ.ศ. 2534 ด้วยการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าทำการลาดตระเวนระยะไกล ในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ตู-160 สองลำได้เข้ามาในน่านฟ้าของเดนมาร์ก เดนมาร์กได้ส่งเอฟ-16 ออกไปสองลำเพื่อเข้าสกัดกั้นและระบุตัวข้าศึก.
ตามแหล่งข้อมูลของรัฐบาลรัสเซียเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2550 ได้อ้างว่าตู-160 ลำหนึ่งถูกใช้เพื่อทิ้งระเบิดเชื้อเพลิงขนาดหนักเพื่อทำการทดสอบครั้งแรก
ในปลายปี พ.ศ. 2550 เครื่องบินทิ้งระเบิดตู-160 ได้บินภายในระยะ 32 กิโลเมตรของเมืองคิงส์ตันในอังกฤษ มันเกือบเข้ามาในน่านฟ้าของอังกฤษซึ่งห่างจากชายฝั่ง 19 กิโลเมตรโดยที่เมืองดังกล่าวอยู่บนฝั่งห่างออกไป 16 กิโลเมตร มันไม่ถูกสกัดกั้นแม้ว่ามันจะอยู่ห่างจากอังกฤษเพียง 90 วินาที นี่แสดงให้เห็นว่าระบบป้องกันทางอากาศของอังกฤษมีความล้มเหลวที่จะตรวจับการเข้ามาของเครื่องบิน
ในวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เครื่องตู-160 ถูกรายงานว่าสร้างเสร็จเรียบร้อยที่ฐานบินคาซัน หลังจากการบินทดสอบมันก็เข้าประจำการในกองทัพอากาศรัสเซียในปี พ.ศ. 2551 รายงานยังบอกว่ากองทัพอากาศรัสเซียกล่าวว่าจะมีโครงการใช้อาวุธในระยะยาวที่รวมทั้งแผนที่จะสร้างตู-160 เพิ่มทุก ๆ 1–2 ปีเพื่อให้ได้จำนวนทั้งสิ้น 30 ลำภายในปี พ.ศ. 2568–2573
ในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2551 ตู-160 สองลำได้เดินทางสู่อ่าวบิสเคย์ที่ซึ่งพวกมันถูกสกัดกั้นโดยเครื่องบินของนอร์เวย์
ในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551 ตู-160 สองลำได้ลงจอดที่เวเนซุเอลาในส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวทางทหาร เป็นการประกาศถึงพันธมิตรของรัสเซียเป็นเพิ่มความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ และยุโรปหลังจากเหตุการในจอร์เจีย กระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวว่าตู-160 สองลำกำลังทำภารกิจฝึกอยู่ มันกล่าวว่าอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่รัสเซียสองนายซึ่งเครื่องบินจะทำการฝึกบินตลอดน่านน้ำสากลก่อนที่จะกลับฐานที่รัสเซีย ผู้แถลงการกล่าวเสริมว่าเครื่องบินได้รับการคุ้มกันโดยเครื่องบินของเนโทในตอนที่มันบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
ในวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ตู-160 จำนวนมากเกี่ยวข้องกับการฝึกทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่ที่สุดของรัสเซียตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 มีเครื่องบินทั้งสิ้น 12 ลำที่รวมทั้งตู-160 แบล็คแจ็คและตู-95 แบร์ที่ทำการยิงขีปนาวุธร่อนของพวกมัน เครื่องบินทิ้งระเบิดบางลำได้ทำการยิงขีปนาวุธทั้งหมดของมัน มันเป็นครั้งแรกที่ตู-160 ทำการยิงอย่างเต็มรูปแบบ
ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ตู-160 สองลำที่ทำภาจกิจลาดตระเวนเหนือทะเลเหนือได้ถูกสกัดกั้นโดยเอฟ-16 ของนอร์เวย์และทอร์นาโด ไฟเตอร์ของอังกฤษ
ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ตู-160 หนึ่งลำบินเข้าน่านฟ้าของแคนาดาเหนือมหาสมุทรอาร์กติกหนึ่งวันให้หลังที่บารัก โอบามามาเยือนแคนาดาในการเดินทางออกนอกสหรัฐ ครั้งแรกของเขาในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 เครื่องซีเอฟ-18 ฮอร์เน็ทสองลำของแคนาดาเข้าสกัดกั้นเครื่องตู-160 ทั้งสองประเทศอ้างว่าเป็นความบังเอิญ
ในปีพ.ศ. 2549 กองทัพอากาศรัสเซียถูกคาดว่าจะได้รับตู-160 ห้าลำที่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย กองทัพอากาศรัสเซียจะได้รับอีกห้าลำในแต่ละปี ซึ่งหมายความว่าการปรับปรุงให้ทันสมัยให้ทั้งกองบินจะสำเร็จภายในสามปีหากตรงตามตาราง
การเปลี่ยนแปลงมีดังนี้:
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2550 นายพลวลาดิเมียร์ มิไคลอฟได้ประกาศว่าจะมีการสร้างตู-160 เพิ่มอีกสองลำในทุก ๆ สามปี และจะเริ่มโครงการใหม่เพื่อพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์อากาศให้กับเครื่องบินทั้ง 16 ลำในปัจจุบัน
แบบอื่นนั้นมีมากมายที่ถูกเสนอแต่ไม่ถูกผลิตขึ้นมา มีดังนี้
{{cite news}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)